คณะผู้ตรวจราชการแบบบูรณาการฯ ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เป็นวันที่ 3 รุดหารือร่วมกับ ผู้ว่าฯ บูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

วันนี้ (26 เม.ย. 67) ที่ ห้องประชุม 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ให้การต้อนรับคณะผู้ตรวจราชการแบบบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน นำโดย นายพีระ ทองโพธิ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้เดินทางมาฝึกอบรมตามโครงการฝึกอบรบหลักสูตรผู้ตรวจราชการระดับกระทรวง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้คณะผู้ตรวจราชการในระดับกระทรวงต่างๆ ได้ร่วมมือกันวิเคราะห์ เสนอข้อคิดเห็น และหาแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนให้คลี่คลาย โดยอาศัยการบูรณาการทำงานร่วมกันของหน่วยงานต่างๆ

โดยในวันนี้ เป็นการสรุปผลการดำเนินงานภายหลังการฝึกอบรมภายในห้องเรียน รวมถึงจากการลงพื้นที่ศึกษาดูงานและการลงมือปฏิบัติการตรวจราชการแบบบูรณาการตลอดช่วงระยะเวลา 3 วัน ของการฝึกอบรมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้มีการแบ่งกลุ่มการทำงานเพื่อตรวจราชการใน 3 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย การพัฒนาและแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่าจังหวัดเชียงใหม่ , การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ด และการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะตลิ่งลำน้ำในพื้นที่ตำบลท่าวังพร้าว อำเภอสันป่าตอง

โดยในส่วนของการพัฒนาและแก้ไขปัญหาคลองแม่ข่าจังหวัดเชียงใหม่ ทางคณะผู้ตรวจราชการฯ เล็งเห็นว่า ภายหลังจากที่จังหวัดเชียงใหม่ได้ดำเนินการตามแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยพื้นที่ริมคลองแม่ข่าและลำน้ำสาขา เพื่อแก้ไขปัญหารุกล้ำลำน้ำ ทั้งการย้ายออกไปยังที่ใหม่และปรับปรุงที่อยู่เดิม แต่ประชาชนยังมีความกังวลใจในเรื่องของการได้กรรมสิทธิ์ต่างๆ จึงขอให้ทางจังหวัดเชียงใหม่ได้ยื่นเรื่องดังกล่าวไปยังกระทรวงมหาดไทยเพื่อวางแผนจัดสรรผลประโยชน์ร่วมกัน ส่วนด้านปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ด ทางคณะเห็นว่ายังมีเครื่องวัดค่าฝุ่นละอองไม่เพียงพอและไม่เป็นมาตรฐาน ศูนย์ข้อมูลข่าวสารยังไม่เป็นเอกภาพ มีการขยายป่าชุมชนเพื่อดำเนินการในเรื่องคาร์บอนเครดิต และภาครัฐยังขาดงบประมาณในการดำเนินการ ขณะที่ปัญหาการกัดเซาะตลิ่งลำน้ำในพื้นที่อำเภอสันป่าตอง ได้มีข้อเสนอแนะว่า ควรให้สถาบันวิชาการเข้ามาร่วมสนับสนุนการวิจัยในการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ พร้อมทั้งเสนอให้มีการทำแก้มลิงหรือพื้นที่ชะลอน้ำเพิ่มเป็นระยะและทำฝายชั่วคราว