ที่สวนภูมิรักษ์เฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนน่านคริสเตียนศึกษา เขตลินกัล์นอะแคเดมี นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิดกิจกรรม “งานวันรักษ์สวนภูมิรักษ์น่าน” ครั้งที่ 20 ประจำปี 2565 น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยมีนายกฤษดากร มานะผดุงกุล ประธานคณะกรรมการรักษ์สวนภูมิรักษ์น่าน นายณกรณ์ ศิริรัตน์พิริยะ รองนายกเทศมนตรีเมืองน่าน นายกฤษณพงษ์ ผ่องโอภาส ผู้อำนวยการโรงเรียนน่านคริสเตียนศึกษา หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงาน หัวหน้าบ้าน คณะครูและนักเรียนร่วมกิจกรรม
เนื่องด้วยคณะกรรมการรักษ์สวนภูมิรักษ์น่าน ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่านและชุมชนต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองน่าน โรงเรียนน่านคริสเตียนศึกษา สถาบัน และหน่วยงานต่างๆ ได้มีเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะดำเนินโครงการส่งเสริมการเรียนรู้ "วันรักษ์สวนภูมิรักษ์น่าน" เพื่อเป็นการสืบสานและพัฒนาสวนภูมิรักษ์น่านให้เป็นแหล่งศึกษาค้นคว้า เรียนรู้ เป็นแหล่งเพาะปลูกพืช พันธุ์ไม้หายากและพืชสมุนไพรเพื่อการนำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ ตลอดจนใช้เป็นแหล่งออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจของนักเรียน เยาวชนและประชาชนโดยทั่วไป
ในวโรกาสน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงเป็น"พระบิดาแห่งการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม" ทางคณะกรรมการสวนภูมิรักษ์น่านจึงได้ดำเนินการร่วมกับชุมชน และหน่วยงานต่างๆ อาทิ การจัดกิจกรรมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร หาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร กิจกรรมการการปลูกต้นไม้ กิจกรรมการประกวดวาดภาพ เยาวชนกิจกรรมการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน10ปี และรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี การแข่งขันเปตองผู้สูงอายุ ทีมผสม รุ่นอายุ 60 ปี ขึ้นไป และการตั้งกองผ้าป่าเพื่อสมทบในกองทุนพัฒนาสวนภูมิรักษ์น่าน
สวนภูมิรักษ์เฉลิมพระเกียรติจังหวัดน่าน เป็น 1 ใน 6 สวนภูมิรักษ์ในประเทศไทย โดยสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยร่วมกับการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย สภาคริสตจักรในประเทศไทย โดยโรงเรียนน่านคริสเตรียนศึกษา สภาวัฒนธรรมจังหวัดน่าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธันวาคม 2542 และทำพิธีเปิดสวนภูมิรักษ์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2544 ตามแนวพระราชดำริ คือ สร้างป่าใหญ่ในเขตเมือง หล่อหลอมและกระตุ้นจิตสำนึกของชุมชนให้เห็นความสำคัญของต้นไม้ รักและหวงแหนพื้นที่ป่าไม้ รวมทั้งใช้เป็นสถานที่ออกกำลังกาย เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ไม้หายากและสมุนไพรไทย ตลอดจนเป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติได้อีกทางหนึ่งด้วย