ตำรวจภูธรเมืองน่าน รวบตัวคนร้ายบุกเดี่ยวมีดจี้คอปล้นร้านสะดวกซื้อ แลกอนาคตกับเงิน 1,050 บาท

         จากกรณีเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 เวลา 04.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองน่าน ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ภูธรจังหวัดน่าน แจ้งว่าเกิดเหตุชิงทรัพย์ ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาตลาดปางค่า ตำบลสถาน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตรงข้ามที่เกิดเหตุพบว่า เวลาประมาณ 04.01 น. พบผู้ต้องสงสัยเดินข้ามถนนมายังที่เกิดเหตุ เป็นชายรูปร่างท้วม สูงประมาณ 170 เซนติเมตร สวมหมวกแก๊ปกลับหลังสีขาว สวมหน้ากากอนามัยสีเขียวปกปิดใบหน้า สวมเสื้อแขนยาวสีขาว กางเกงขายาวสีดำ สวมถุงเท้าสีดำ รองเท้าแตะ เดินตรงเข้ามาในร้าน ขณะเดินเข้ามาพบพนักงานสาวเซเว่น 1 คน กำลังนั่งเรียงสินค้าอยู่ คนร้ายจึงใช้อาวุธมีดจี้คอพนักงานสาวร้านเซเว่น บังคับให้เดินไปเปิดลิ้นชักเก็บเงินของทางร้านเซเว่น จากนั้นชายผู้ก่อเหตุได้เอาเงินในลิ้นชักไป จำนวนเงินประมาณ 1,050 บาท พอได้เงินคนร้ายได้รีบวิ่งออกมา แล้วได้วิ่งข้ามถนนสายน่านบ้านหลวงหลบหนีไป

          เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของภูธรจังหวัดน่านเพื่อติดตามคนร้าย จนพบว่า ก่อนเกิดเหตุเวลา เวลา 03.58 น. ผู้ต้องสงสัยขับขี่รถจักรยานยนต์วนดูลาดเลา คาดว่าพบเห็นพนักงานเซเว่นมีเพียงพนักงานหญิงเพียงคนเดียวสบช่องต่อการก่อเหตุ จึงขับรถจักรยานยนต์ไปซ่อนถนนฝั่งตรงข้าม แล้วเปลี่ยนชุด จากนั้นวิ่งข้ามถนนมาก่อเหตุ ใช้มีดจี้คอพนักงานชิงทรัพย์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงทำการไล่ตรวจกล้องวงจรปิดย้อนรอยเส้นทางจนตามไปพบบ้านผู้ก่อเหตุ พบว่าผู้ก่อเหตุขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพักแถวถนนมหายศ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน เมื่อเวลา 03.35 น. และสามารถตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า รถจักรยานยนต์ที่ผู้ต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นสกู้ปปี้สีขาว เลขทะเบียน 1กง 7213 น่าน ผู้ครอบครองอยู่บ้านหลังที่คนร้ายขับออกมาใช้ก่อเหตุจริง โดยหลังก่อเหตุ เวลา 04.10 น. คนร้ายได้ขับรถคันดังกล่าวกลับมาจอดไว้หน้าบ้าน แล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต่อมาเวลาประมาณ 12.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองน่าน ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภูธรจังหวัดน่าน เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว ตั้งอยู่ที่ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน พบรถจักรยานยนต์คันที่ผู้ต้องสงสัยใช้ขับขี่หลบหนีหลังก่อเหตุชิงทรัพย์ จอดอยู่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว

            จากการสอบถามมารดาผู้ก่อเหตุ รับว่าเป็นรถจักรยานยนต์ของตนเองจริง ซึ่งมีนายศุภกร หรือนายโจ้ นามสมมุติ อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นบุตรชายของตนเองเป็นผู้นำไปใช้ขับขี่เป็นประจำ จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำภาพถ่ายผู้ต้องสงสัยขณะขับขี่รถจักรยานยนต์จากกล้องวงจรปิดให้มารดานายโจ้ดูโดยละเอียด มารดานายโจ้ยืนยันว่า บุคคลที่ขับขี่จักรยานยนต์ตามกล้องวงจรปิด คือนายศุภกร หรือนายโจ้ บุตรชายของตนเองจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการควบคุมตัวนายศุภกร หรือนายโจ้ มาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรเมืองน่าน ส่วนนายโจ้ปากแข็งยืนยันว่าไม่ได้ก่อเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาสอบปากคำกว่า 10 ชั่วโมง เปิดปากรับสารภาพ ก่อเหตุจริงพานำชี้จุดทำแผน อ้างทำไปเพื่อประชดพ่อ แต่พบว่าเคยก่อวีรกรรมขับรถลงข้างทางเพื่อรีวิวขายวัตถุมงคล แถมมีคนซื้อ สืบประวัติพบเป็นกลุ่มบุคคลที่มีอาการจิตเวช เนื่องจากใช้สารเสพติดมาเป็นเวลานานขณะอาศัยในเมืองกรุง พ่อแม่จริงให้กลับมาอยู่น่านเพื่อเปลี่ยนสังคมหยุดการใช้สารเสพติด หันมาประกอบอาชีพสุจริตที่เมืองน่าน ขายเสื้อผ้าในถนนคนเดินและตามตลาด คาดเครียดจากการที่อาทิตย์ที่ผ่านมาไม่มีรายได้เนื่องจากถนนคนเดินปิดปรับปรุงทำให้ไม่มีรายได้เข้ามาจึงก่อเหตุ

            พ.ต.อ.ดเรศ กัลยา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนศาลอนุมัติหมายจับ แต่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ หลังจากทำการสอบสวนและให้ดูหลักฐานทางผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยให้การว่ามูลเหตุที่กระทำผิดนั้นเกิดจากต้องการประชดครอบครัว จึงอยากจะฝากพี่น้องประชาชน สิ่งที่สำคัญนั้นคือกล้องวงจรปิด อยากจะขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนติดตั้งกล้องวงจรปิดทั้งเป็นการป้องปรามการก่ออาชญากรรมหรือหลังเกิดเหตุอาชญากรรม ยังสามารถติดตามตัวอาชญากรไปจนถึงบ้าน อย่างเช่นกรณีนี้เราสามารถติดตามกล้องวงจรปิดทั้งของทางตำรวจภูธรจังหวัดน่านและของเอกชนและประชาชนจนสามารถตามไปถึงบ้านผู้ก่อเหตุ จนสามารถจับกุมตัวได้


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar