พลตรีคณิศร อาสมะ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน และพลตำรวจตรีดเรศ กัลยา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน เป็นประธานในการประชุมเตรียมการรับเสด็จฯ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการเสด็จพระราชดำเนินมาทรงวางศิลาฤกษ์หอศิลปวัฒนธรรมเมืองน่านและแหล่งเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมล้านนาตะวันออก(ศาลากลางจังหวัดน่านหลังเก่า) ณ อาคารสโมสรนายทหารมณฑลทหารบกที่ 38 โดยได้นำเสนอร่างกำหนดการการเสด็จพระราชดำเนินในวันที่ 26 เมษายน 2567 โดยได้มอบหมายภารกิจหน้าที่ในการเตรียมการรับเสด็จ โดยจะตั้งกองอำนวยการที่พระตำหนักธงน้อยและกองอำนวยการร่วม ที่ท่าอากาศยานน่านนคร และหอศิลปวัฒนธรรมเมืองน่าน พระตำหนักธงน้อย และวัดพระธาตุช้างค้ำ พร้อมกองบัญชาการร่วมเคลื่อนที่ มีผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 เป็นผู้บัญชาการ
โดยเน้นย้ำให้ซักซ้อมการปฏิบัติ ป้องกันปัญหาไฟป่า หมอกควัน ในห้วงเวลาดังกล่าว อีกทั้งช่วงดังกล่าวอากาศร้อน ให้เตรียมการดูแลสุขภาพผู้เข้าร่วมพิธีด้วย
ตามมติคณะรัฐมนตรี ปี 2548 ประกาศให้บริเวณเมืองเก่าน่านเป็นพื้นที่อนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่า และกำหนดให้ศาลากลางจังหวัดน่านหลังเก่า เป็นศูนย์เรียนรู้ศิลปวัฒนธรรม เมื่อปี 2558 จังหวัดน่านได้ย้ายศาลากลางจังหวัดไปยังศูนย์ราชการจังหวัดแห่งใหม่ ทำให้ศาลากลางจังหวัดหลังเก่าไม่ได้ใช้ประโยชน์ โดยที่ผ่านมาได้จัดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนจังหวัดน่าน มีประชาชนเข้าร่วม 45,469 คน ต่อมา เมื่อ 14 มีนาคม 2565 คณะรัฐมนตรีจึงมีมติรับทราบและเห็นชอบการดำเนินโครงการดังกล่าว และวันที่ 14 กันยายน 2566 กระทรวงมหาดไทย จึงลงนามสัญญาอนุญาตให้มูลนิธิรักษ์ป่าน่านฯ เป็นผู้สนับสนุนการดำเนินโครงการฯ และงบประมาณในการก่อสร้างอาคารใหม่ การรื้อถอน การบริหารจัดการงบบุคลากร ค่าสาธารณูปโภค ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้น โดยไม่ใช้งบประมาณของราชการ พื้นที่โครงการประกอบด้วย หอศิลปวัฒนธรรม อาคารหอประชุมเอนกประสงค์ อาคารบริการ สวนพฤกษาศาสตร์และลานกิจกรรม โดยพื้นที่อาคารเป็นพื้นที่ที่คน ทุกเพศ ทุกวัย สามารถใช้ประโยชน์ร่วมกัน และเป็นแหล่งเรียนรู้ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี สืบต่อให้ลูกหลาน รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวและการพัฒนาเมืองน่านอย่างยั่งยืน การก่อสร้าง ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 พระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ.2522 และพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 รวมทั้งกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยจะรื้อถอนให้แล้วเสร็จภายใน 4เดือน นับจากวันที่ได้รับอนุญาตให้เข้าใช้พื้นที่โครงการ ส่วนการรื้อถอนต้นไม้เดิมในพื้นที่โครงการจะใช้วิธีล้อมเพื่อย้ายออกนอกพื้นที่ชั่วคราว เพื่อนำกลับมาปลูกใหม่ในพื้นที่ และคงรักษาพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ไว้ ณ ตำแหน่งที่ประดิษฐานอยู่ในปัจจุบัน โดยจะใช้เวลาก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน 24 เดือน นับจากวันรื้อถอนแล้วเสร็จ